บ้านห้วยโก๋นในอดีต หมู่บ้านเล็กๆท่ามกลางขุนเขาลำเนาไพรพฤกษ์ในเขตอำเภอเฉลิมพระเกียรติ ใกล้ชายแดนไทยลาว ซึ่งแต่ไหนแต่ไรมาจะไม่มีความหมายและไม่เป็นอะไรที่น่าสนใจสำหรับคนทั่วไป สามารถติดต่อกับหมู่บ้านใกล้เคียงด้วยการเดินเท้าที่ลัดเลาะไปตามป่าเขายังไม่มียานพาหนะทางบกใดๆเข้าไปถึง รอรับความเจริญและติดต่อกับโลกภายนอกด้วยเส้นทางสายพระราชประสงค์เลียบชายแดนจากอำเภอปัว-บ้านน้ำยาว-บ้านห้วยลักลาย – บ้านผักเฮือก - บ้านบ่อเกลือใต้ - บ้านบ่อเกลือเหนือ - บ้านบวกหญ้า - บ้านง่อมเปา - บ้านห้วยโก๋น - บ้านปิน – บ้านปางหก – บ้านน้ำเลียง - อำเภอทุ่งช้าง จังหวัดน่าน
พื้นที่ปฏิบัติการ
ฤดูร้อน
เริ่มจากเดือนมีนาคมถึงเดือนเมษายน อากาศร้อนอบอ้าว อุณหภูมิสูงสุด เฉลี่ย
36 องศา ฤดูฝน เริ่มจากเดือนพฤษภาคม ถึงเดือนกันยายน เป็นระยะที่ลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้นำฝนเข้ามาตก
ฝนเริมตกชุกประมาณกลางเดือนพฤษภาคม
ถึงเดือนมิถุนายน
และฝนตกชุกมากที่สุดอยู่ในระหว่างเดือนสิงหาคม ถึงเดือนกันยายน ฤดูหนาว
ตั้งแต่เดือนตุลาคมจนถึงเดือนกุมภาพันธ์
อากาศจะเย็นที่สุดระหว่างเดือนธันวาคม ถึงเดือนมกราคม
พืชพันธุ์ไม้ พืชพันธุ์ต่างๆในพื้นที่แบ่งได้ประเภท 3 ประเภท ประเภทได้แก่
1. ป่าทึบ
2.ป่าโปร่ง
3. พื้นที่เพาะปลูก
ลักษณะผิวดิน
ตามพื้นที่ราบจะเป็นดินปนทรายพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นลูกรังสามารถรับน้ำหนักยานพาหนะประเภทยานล้อและสายพานได้ ส่วนในป่าจะเป็นดินเป็นแบบใบไม้ทับถม ทำให้พื้นดินอ่อน
ลักษณะหมู่บ้าน
เป็นหนึ่งหมู่บ้านในพื้นที่อำเภอเฉลิมพระเกียรติอยู่ห่างจากชายแดนไทย-ลาว ประมาณ 5 กิโลเมตร ประชากรส่วนใหญ่เป็นไทลื้อ
ซึ่งประชากรเหล่านี้ส่วนมากติดต่อกับเมืองเงินในราชอาณาจักรลาว เนื่องจากมีเส้นทางติดต่อกันได้สะดวก
การติดต่อกับหมู่บ้านต่างๆในเขตไทยเป็นไปอย่างลำบากมาก เพราะไม่มีเส้นทางคมนาคม
เส้นทางที่มีอยู่ก็ผ่านภูเขาสูงชันและป่าทึบ ช่องทางติดต่อกับประเทศข้างเคียงชายแดน
มีหลายช่องทางแต่ที่เข้าสู่หมู่บ้านห้วยโก๋นได้
มีดังนี้
ก. ช่องกิ่วไม้แป้น เป็นเส้นทางเข้าบ้านสบปืน แต่มีทางแยกเข้าบ้านห้วยโก๋นได้
ข. ช่องดงข่อย เป็นเส้นทางจากบ้านดีหมีและเมืองเงินในเขตลาว
เข้าสู่หมู่บ้านห้วยโก๋นระยะทางห่างจากชายแดนประมา 5
กิโลเมตร
ค. ช่อบ้านหนานคำ จากชายแดน
มีทางแยกเข้าบ้านห้วยโก๋น ประมาณ 7 กิโลเมตรความสำคัญของบ้านห้วยโก๋น
จะเห็นได้ว่าบ้านห้วยโก๋นเป็นจุดคมนาคมหนึ่งในบริเวณนี้ ซึ่งถ้าฝ่ายตรงข้ามใช้เป็นเส้นทางแทรกซึมและส่งกำลังออกจากภายนอกประเภทด้วยเหตุนี้
จึงมีกองกำลังทหารจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการขนาด 1 หมวด เพิ่มเติมกำลังขึ้นตั้งแต่
เดือนตุลาคม 2514 เพื่อสกัดเส้นทางแทรกซึมและส่งกำลังจากภายนอกประเทศ เพื่อคุ้มครองราษฎรบ้านห้วยโก๋นและปฏิบัติการจิตวิทยา และคุ้มครองสายพระราชประสงค์ดังที่ได้กล่าวมาแง่คิดเกี่ยวกับพื้นที่
(เฉพาะพื้นที่บริเวณบ้านห้วยโก๋น)
1. การตรวจการและพื้นที่ยิง เนื่องจากเป็นฐานปฏิบัติการขนาดเล็ก
ตั้งอยู่บนเนินเตี้ยๆห่างจากหมู่บานไปทางทิศตะวันตกประมาณ 500 เมตร
2. ภูมิประเทศสำคัญ
3. เครื่องกีดขวาง
4. การกำบังและการซ่อนพราง
5.
เส้นทางเข้า
สถานการณ์พื้นที่บ้านห้วยโก๋น
เมื่อปี 2518
บ้านห้วยโก๋นมี จำนวนหลังคาเรือนทั้งหมด 51 หลังคาเรือน
มีประชากรทั้งหมด 273 คน
เป็นชนเผ่าลื้อและเผ่าขมุ แยกเป็น 2 หมู่คือ หมู่ 1 และหมู่ 6 มี นายกล่ำ หอมดอก และ นายผ่อง สุทธิโวหาร เป็นผู้ใหญ่บ้าน
ขณะนั้นพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทยได้ยกระดับการจัดตั้งเป็นคณะกรรมการ ระดับจังหวัด
แบ่งเขตปฏิบัติการออกเป็น 6 เขต เทียบเท่าคณะกรรมการระดับอำเภอพื้นที่ตอนเหนือ เป็นเขตงานที่ 1 (ผาแดง) มีกองร้อย 301 ประจำอยู่
ที่ดอยผาแดงเทือกเขาภูแว และกองร้อย 301 อยู่ที่ขุนน้ำตวง เขตงานที่ 4 (น้ำช้าง)
ขณะนั้น ในส่วนของกองกำลังทหารม้ารับผิดชอบมี พลตรีแสวง จามรจันทร์ เป็นผู้บังคับบัญชาจัดกำลังจากกองพลทหารม้าและหน่วยขึ้นตรงและมีกรมทหารราบที่
21 รักษาพระองค์จัดกำลังมาช่วยเรียกนามหน่วยว่า
กองพลทหารม้าส่วนหน้า ในพื้นที่อำเภอทุ่งช้าง จังหวัดน่าน
กำหนดให้กองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 21 รักษาพระองค์ ซึ่งมี พันโทวิชิต รัตนกุล
และ พันตรีนิพันธ์ ภารัญนิตย์ ร้อยเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ
และนายทหารยุทธการตามลำดับ โดยใช้นามหน่วยว่า
กองพันทหารราบที่ 212 และกำหนดให้กองร้อยอาวุธเบา ที่ 3 ซึ่งมี ร้อยโทสำราญ สายพิน
เป็นผู้บังคับกองร้อย และหมวดปืนเล็กที่ 3 ตั้งฐานอยู่ที่กิโลเมตรที่ 21
- หมวดปืนเล็กที่ 2 ตั้งฐานอยู่ที่บ้านสบปืน
- หมวดปืนเล็กที่ 1
ตั้งฐานอยู่ที่บ้านห้วยโก๋น
โดยมีร้อยตรีพงษ์ศักดิ์ ขันธวิธิ
เป็นผู้บังคับฐาน
การตั้งฐานปฏิบัติการห้วยโก๋น มุ่งเน้นที่จะสกัดกั้นเส้นทางการส่งเสบียงอาหาร
และยุทโธปกรณ์ และการแทรกซึมของผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ ที่จะมาจากนอกประเทศ คุ้มครองประชาชนบ้านห้วยโก๋น ด้วยการช่วยเหลือปฏิบัติการทางจิตวิทยา
งานการข่าว และยุทธการเตรียมให้การสนับสนุนการสร้างทางตามพระราชดำริ
เหตุการณ์สำคัญทางประวัติศาสตร์ท้องถิ่น
สถานการณ์เริ่มแรก
เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2517 กองพันทหารราบที่ 212 กองพลทหารม้าส่วนหน้าได้ดำเนินการ ซักถามนายผาย
ศรีวิชัย ซึ่งเคยเป็นทหารลาว และเป็นผู้ทำงานการข่าวให้กับเรามาเป็นเวลานาน ได้ถูกผู้ก่อการร้ายจับตัวไปอบรมเป็นเวลายาวนาน
ถึง 80 วัน แล้วก็ส่งตัวกลับคืนมา เมื่อวันที่
4 ตุลาคม 2514
ได้ทราบข่าวว่านายผายได้แจ้งความลับบนฐานปฏิบัติการห้วยโก๋นให้ฝ่ายคอมมิวนิสต์ทราบทั้งหมด
ผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ได้ยืนยันว่าจะเข้าตีฐานปฏิบัติการห้วยโก๋นแน่นอน ผู้บังคับกองพันทหารราบที่ 212 กองพลทหารม้าส่วนหน้าจึงออกคำสั่ง
แผนยุทธการเพื่อแนะนำวิธีการแก้ไขทางยุทธการ
และปลุกปลอบให้มีกำลังใจสู้รบทั้งสนับสนุนวัตถุระเบิดตามที่ ผู้บังคับฐานปฏิบัติการบ้านห้วยโก๋นขอมา
สถานการณ์ต่อมา
เมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2518 เวลาใกล้ค่ำขณะที่พนักงานวิทยุที่ฐานปฏิบัติการบ้านห้วยโก๋น
กำลังใช้วิทยุติดต่อกับหน่วยต่างๆตามปกติอยู่นั้น ได้มีสถานีวิทยุอื่นสัญญาณเรียกขานว่า “ทอง” สำเนียงพูดเป็นคนไทย
ได้ขอพูดด้วยและแจ้งว่าตนอยู่ห่างจากฐานปฏิบัติการห้วยโก๋น ประมาณภูเขา 6 ลูก และได้แจ้งทราบว่า
ขณะนั้นผู้บังคับบัญชาของตนได้เตรียมกำลังไว้จะเข้าตีฐานปฏิบัติการ บ้านห้วยโก๋น ตนมีความห่วงใยจึงแจ้งให้ทราบ หลังจากวันที่ 23
มีนาคม 2518
สถานีวิทยุแห่งนี้ได้ได้ลักลอบผู้บังคับบัญชาของตนใช้วิทยุของตนพูดคุยกับพนักงานวิทยุ
ประจำฐานบ้านห้วยโก๋นเป็นประจำซึ่ง กองพันทหารม้าส่วนหน้า
ได้บันทึกคำพูดติดต่อด้วยเครื่องบันทึกเสียงไว้
วันที่ 8 เมษายน 2518
ร้อยโทสำราญ สายพิณ
ผู้บังคับกองร้อยสั่งการให้ ร้อยตรีอุดม
วิทยะเมธาคินทร์ ผู้บังคับหมวดปืนเล็กที่ 3 นำกำลังพล 16 นายจากฐานปฏิบัติการกิโลเมตรที่
21 ร้อยตรีกำพล แจ่มมั่น จากฐานปฏิบัติการ้านสบปืน จำนวน 14นาย ปฏิบัติภารกิจลาดตระเวนในพื้นที่รับผิดชอบของกองร้อยโดยมุ่งไปยังฐานห้วยโก๋นทั้ง
2 ชุดลาดตระเวนและพักแรมที่รวมพลฐานปฏิบัติการบ้านห้วยโก๋น ซึ่งในขณะนั้นกำลังพลของฐานปฏิบัติการบ้านห้วยโก๋น
มีจำนวน 39 นาย เมื่อชุดลาดตระเวนมาสมทบอีก 30 นาย รวมเป็น
69 นาย
วันที่ 9 เมษายน 2518 ผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์จำนวนประมาณ 200
นายเข้ามาวางกำลังเตรียมเข้าตีฐานปฏิบัติการบ้านห้วยโก๋น
โดยแบ่งกำลังส่วนหนึ่งร่วมกับชาวบ้านบางคนรุกเข้ามาทางท้ายหมู่บ้านด้านทิศตะวันออกเฉียงเหนือ
ของฐานปฏิบัติการเป็นส่วนกำลังเข้าตีหลัก
อาศัยความมืดแทรกซึมซ่อนเร้นเข้ามาวางตัวติดกับฐาน
ส่วนที่เหลือวางตัวยิงสนับสนุนจากเนินและพื้นที่ทาง ทิศใต้ ทิศตะวันตก
และทิศตะวันออกเฉียงเหนือของฐานและตั้งเครื่องยิงลูกระเบิดขนาด 60 มิลลิเมตร บริเวณด้านทิศตะวันตกเฉียงเหนือของฐานเวลาประมาณ 04.50 น.ของวันที่ 7
เมษายน 2518 กำลังส่วนเข่าตีหลักที่มาวางตัวติดฐานได้สะดุดพลุส่องสว่างที่ฝ่ายเราได้วางไว้ป้องกัน ทันใดนั้นได้เปิดฉากระดมยิงด้วยอาวุธหนัก ได้แก่
เครื่องยิงลูกระเบิดขนาด 61 มม.เครื่องยิงจรวด อาร์พีจี ตลอดจนปืนเล็กยาวเค 47
ระดมยิงใส่เข้าฐานอย่างหนัก
ขณะที่กำลังสู้รบกันอย่างดุเดือดนั้น
มีกำลังพลสำคัญที่เป็นผู้บังคับบัญชาเสียชีวิตด้วยอาวุธจากฝ่ายคอมมิวนิสต์ได้แก่ ร้อยตรีพงษ์ศักดิ์ ร้อยตรีอุดม วิทยะเมธาคินทร์
เมื่อการสู้รบดุเดือดถึงที่สุด
3.
กิจกรรมที่ให้บริการ องค์ความรู้ ความชำนาญ
กระบวนการจัดการเรียนรู้
3.1 นิทรรศการทางประวัติศาสตร์เหตุการณ์สู้รบในอดีต
-
ภาพถ่ายสภาพรถยนต์และเฮลิคอปเตอร์ที่ถูกฝ่ายคอมมิวนิสต์โจมตี
- การปรับปรุงฐานปฏิบัติการบ้านห้วยโก๋นภายหลังการสู้รบสงบลง
-
อาวุธปืนและวัตถุระเบิดที่ยึดได้จากการสู้รบ
- ทหารกล้าที่สูญเสียชีวิต
-
ทหารที่ได้รับบาดเจ็บจากการลอบวางระเบิดของฝ่ายคอมมิวนิสต์
-
การกู้วัตถุระเบิดที่หลงเหลือจากเหตุการณ์สู้รบ
3.2 ให้บริการห้องบรรยายสรุปจัดแสดงแบบจำลองสภาพภูมิประเทศ
3.3 บรรยายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างละเอียด
3.4 แสดงนิทรรศการเสื้อผ้าของทหารที่เสียชีวิตในเหตุการณ์
3.5 แสดงอาวุธปืน วัตถุระเบิด
3.6
ให้บริการเป็นแหล่งท่องเที่ยวพร้อมที่พักให้บริการแก่นักท่องเที่ยว
3.7 เป็นสถานที่ตั้งอนุสรณ์สถานสำคัญทางประวัติศาสตร์
ปัจจุบันทางกองพลทหารม้าที่1ได้ปรับปรุงรักษาสภาพฐานปฏิบัติการแห่งนี้ให้เป็นพิพิธภัณฑ์กลางแจ้ง
ซึ่งมีสภาพใกล้ของเดิมมากที่สุด ตัวฐานปฏิบัติการตั้งอยู่บนยอดเนินอันเป็นชัยภูมิที่เหมาะสม
รอบๆเนินโอบล้อมด้วยขุนเขาน้อยใหญ่ ฐานปฏิบัติการประกอบด้วย ที่บังคับหมวด ที่พักกำลังพล บังเกอร์ที่ตั้งกระสุนเอ็ม 600 คลังกระสุน ซึ่งทั้งหมดขุดลึกลงไปใต้ดิน มีหลังคาสูงกว่าระดับพื้นดินเล็กน้อย
หลังคาทำด้วยท่อนไม้ทับด้วยกระสอบทรายแน่นหนา ข้างๆพิพิธภัณฑ์กลางแจ้งมีห้องบรรยายสรุปเป็นอาคารชั้นเดียว
ภายในจัดแสดงแบบจำลองสภาพภูมิประเทศของพื้นที่
ภาพถ่าย เสื้อผ้าของทหารที่เสียชีวิต ในเหตุการณ์ อาวุธปืน วัตถุระเบิด
แบบต่างๆและมีคำบรรยายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างละเอียด
บริเวณฐานปฏิบัติการยังรักษาสภาพเดิมไว้ให้อนุชนรุ่นหลังได้ศึกษา และปรับปรุงเป็นสถานที่ท่องเที่ยว มีอนุสรณ์สถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ การต่อสู้ของลัทธิการปกครองที่แตกต่างกัน
ภายในฐานยังมีบริการบ้านพักนักท่องเที่ยวซึ่งติดต่อได้ที่กองพันทหารราบ ที่ 15 หรือหน่วยเฉพาะกิจทหารพรานจู่โจม
ค่ายสุริยะพงษ์
4. สถานที่ตั้ง
บ้านห้วยโก๋น หมู่ที่
1 ตำบลห้วยโก๋น
อำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดน่าน
5. วันเวลา ที่ให้บริการ
08.30-20.00 น.
ไม่เว้นวันหยุดราชการ
6. ค่าใช้จ่ายในการรับบริการ
ค่าที่พักสำหรับค้างแรม
ต่อคืน 100-200 บาท
7.
สิ่งที่น่าสนในการศึกษา/เรียนรู้
7.1 นิทรรศการทางประวัติศาสตร์เหตุการณ์สู้รบในอดีต
-
ภาพถ่ายสภาพรถยนต์และเฮลิคอปเตอร์ที่ถูกฝ่ายคอมมิวนิสต์โจมตี
-
การปรับปรุงฐานปฏิบัติการบ้านห้วยโก๋นภายหลังการสู้รบสงบลง
-
อาวุธปืนและวัตถุระเบิดที่ยึดได้จากการสู้รบ
- ทหารกล้าที่สูญเสียชีวิต
- ทหารที่ได้รับบาดเจ็บจากการลอบวางระเบิดของฝ่ายคอมมิวนิสต์
- การกู้วัตถุระเบิดที่หลงเหลือจากเหตุการณ์สู้รบ
7.2
ให้บริการห้องบรรยายสรุปจัดแสดงแบบจำลองสภาพภูมิประเทศ
7.3 บรรยายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างละเอียด
7.4 แสดงนิทรรศการเสื้อผ้าของทหารที่เสียชีวิตในเหตุการณ์
7.5 แสดงอาวุธปืน
วัตถุระเบิด
7.6
ให้บริการเป็นแหล่งท่องเที่ยวพร้อมที่พักให้บริการแก่นักท่องเที่ยว
7.7 เป็นสถานที่ตั้งอนุสรณ์สถานสำคัญทางประวัติศาสตร์
7.8 สภาพแวดล้อมทางธรรมชาติที่ร่มรื่นสวยงาม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น